วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ปลูกพืช ทำโลกร้อน ?!?

การ หักร้างถางพงและปลูกพืชเพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพอาจทำให้โลกร้อนขึ้น ด้วยการแพร่ก๊าซเรือนกระจกเข้าไปที่บรร ยากาศ การพยายามลดโลกร้อนกลับเป็น การสร้างโลกร้อนขึ้นมาแทนนายโจ ฟาร์จีโอน ผู้ก่อตั้งกลุ่มปกป้องสิ่งแวดล้อม “เนเจอร์ คอนเซอร์แวนซี่” เตือนว่า เชื้อเพลิงชีวภาพที่ใช้กันในขณะนี้เป็นตัวการทำลายสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็น ทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งปัจจุบัน การเกษตรโลกใช้พื้นที่มากในการเลี้ยงประชากร 6,000 ล้านคนอยู่แล้ว การผลิตเพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพจะทำให้ต้องหักร้างถางป่ามาปลูกพืช มากขึ้น เช่น ปลูกข้าวโพด อ้อย และถั่วเหลือง จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 17-420 เท่าออกมา เทียบเท่ากับก๊าซคาร์ บอนไดออกไซด์ที่ได้มาจากเชื้อเพลิงถ่านหิน เนื่องจากคาร์บอนที่สะสมอยู่ในต้นไม้ที่ตายรวมทั้งที่สะสมอยู่ในดินและ ธรรมชาติจะถูกปล่อยออกมายังบรรยากาศในรูปของคาร์ บอนไดออกไซด์จาก การศึกษาพบว่า ถ้าพื้นที่ชุ่มน้ำของอินโดนีเซียเปลี่ยนมาเป็นไร่ปลูกปาล์ม จะต้องใช้เวลานานถึง 423 ปี กว่าการลดก๊าซคาร์ บอนไดออกไซด์ด้วยการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ จะทดแทนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ออกมาจากการหักร้างถางป่าได้ นักวิจัยยังพบด้วยว่า การที่สหรัฐต้องการน้ำมันเอทานอลจากข้าวโพด ส่งผลให้มีการทำลายป่าอะเมซอนในบราซิลเพิ่มขึ้น เนื่องจากชาวไร่สหรัฐไม่ปลูกถั่วเหลืองสลับกับปลูกข้าวโพดอีกต่อไป ทำให้บราซิลเพิ่มพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองด้วยการรุกป่าอะเมซอน ที่มา – www.matichon.co.th  See More..

บทความที่ได้รับความนิยม